กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือ
เทคโนโลยีที่ช่วยนำมายืนยันความปลดภัย และความน่าเชื่อถือโดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง ลองนึกภาพการทำธุรกรรมทางการเงิน ในรูปแบบ e-Money จะมีตัวกลางทางการเงินที่คอยยืนยันความน่าเชื่อถือและตัวบุคคล ซึ่งอยู่ในระบบฐานข้อมูลส่วนกลางของผู้ให้บริการ e-money นั้น ๆ
ไม่เพียงเท่านี้ ผู้ใช้ยังโอนเงินให้เพื่อนหรือแชร์ค่าใช้จ่ายผ่านทางแอปฯ LINE ได้อีกต่างหาก หรือจะใช้ผูกกับบัตรโดยสารรถไฟฟ้า BTS, ชำระเงินค่าสินค้าและบริการทางออนไลน์, ผูกกับบัตรเครดิต Kbank LINE Point เพื่อรับ cashback เป็น LINE Point ที่นำมาใช้จ่ายแทนเงินสดผ่าน LINE Pay และอื่นๆ ได้อีกด้วย ส่วนใครที่ไปไต้หวันหรือญี่ปุ่นก็ใช้แอปฯ นี้ชำระเงินค่าต่างๆ ได้เช่นกัน
หลังจากที่ลูกค้าส่งข้อมูลการชําระเงินจากกระเป๋าเงินดิจิทัลผ่านเทคโนโลยีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เทอร์มินัล POS หรือเครื่องอ่านบัตรจะส่งข้อมูลธุรกรรมไปยังผู้ประมวลผลการชําระเงิน ซึ่งจะสื่อสารกับธนาคารที่ออกบัตรและธนาคารผู้รับบัตรเพื่อประมวลผลการซื้อดังกล่าว
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการ แห่งรัฐ
ล่าสุด กรมบัญชีกลางได้โอนเงิน e-Money คงเหลือให้ผู้มีสิทธิเมื่อวันที่ 23-24 พ.ค https://thesupperstar.com/ . 67 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งไว้ในหนังสือยินยอม สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้ (ผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี)
กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เตรียม คืนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อยู่ในe-Money เป็นเงินสดผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ภายในเดือน พ.ค. 2567 โดยมีเงื่อนไขต้องยืนยันตัวตนให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ (26 เม.ย. 2567) มีเงื่อนไข และ วิธีการอย่างไรไปตรวจสอบกันก่อน
โอนเงิน e-Money คืนให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 23 และ 24 พฤษภาคม 2567 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ผู้มีสิทธิแจ้งความประสงค์ในหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น
1. ผู้ที่ยืนยันตัวตนแล้วและยังมีชีวิต โอนเงิน e-Money คืนให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 23 และ 24 พฤษภาคม 2567 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ผู้มีสิทธิแจ้งความประสงค์ในหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น
หลังจากที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ประกาศผู้มีบัตรสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 (โครงการเก่า) ที่มีวงเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเป็นผู้มีสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการปัจจุบัน) โดยผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบข้อมูลเงิน e-money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ด้วยตนเอง
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ
– เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ก.พ. – 26 มี.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
ผู้ที่ยังไม่ยืนยันตัวตน ให้ยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา โดยจะทำการโอนเงิน e-Money คืนให้ กำหนดการที่ให้ผู้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐดำเนินการเพื่อรับคืนเงิน e-Money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเก่า
หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่น สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้) และทำการแก้ไขรายการที่โอนไม่สำเร็จ (Reject) จำนวน 1 ครั้ง ในวันที่ 21 มิถุนายน 2567
ล่าสุด กรมบัญชีกลางได้โอนเงิน e-Money คงเหลือให้ผู้มีสิทธิเมื่อวันที่ 23-24 พ.ค. 67 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งไว้ในหนังสือยินยอม สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้ (ผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี)